พระโกศทองใหญ่ คืออะไร? จารึกประวัติศาสตร์ พระพันปีหลวง

Summarize Post (สรุปเนื้อหา)
- พระเกียรติยศสูงสุดครั้งประวัติศาสตร์: สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงเป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถพระองค์แรกในประวัติศาสตร์ ที่ได้รับการถวายพระเกียรติยศสูงสุดโดยประดิษฐานใน “พระโกศทองใหญ่” ซึ่งปกติสงวนไว้สำหรับพระมหากษัตริย์
- เทียบเท่าองค์กษัตริย์: การถวายพระเกียรติยศนี้ ยังรวมถึงการประดิษฐานภายใต้ “นพปฎลมหาเศวตฉัตร” (ฉัตร 9 ชั้น) ซึ่งเป็นเครื่องยศสูงสุดขององค์พระมหากษัตริย์
- ลำดับยศพระโกศ: พระโกศทองใหญ่ คือพระโกศลำดับยศที่ 1 สูงกว่า “พระโกศทองน้อย” ซึ่งเป็นธรรมเนียมเดิมสำหรับสมเด็จพระอัครมเหสีในอดีต
สวัสดีครับเพื่อนๆ ผู้อ่านทุกท่าน ในช่วงเวลาที่พสกนิกรไทยทั้งชาติกำลังอยู่ในห้วงเวลาแห่งความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (สมเด็จพระพันปีหลวง) เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น ท่ามกลางความโศกเศร้า ก็ได้มีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ถูกจารึกไว้ในราชประเพณีไทย ซึ่งสะท้อนถึงพระเกียรติยศอันสูงสุดที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ถวายแด่สมเด็จพระบรมราชชนนี
นั่นคือการเชิญพระบรมศพประดิษฐานใน “พระโกศทองใหญ่” ครับ
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า “พระโกศ” แต่ทราบไหมครับว่าการใช้ พระโกศทองใหญ่ ในครั้งนี้ ถือเป็น “ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย” ที่สมเด็จพระอัครมเหสี หรือ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงได้รับการถวายพระเกียรติยศนี้ ซึ่งโดยปกติแล้ว จะสงวนไว้สำหรับองค์พระมหากษัตริย์เท่านั้น
วันนี้ ผมอยากจะพาทุกท่านมาเจาะลึกเรื่องนี้กันครับว่า ทำไมเหตุการณ์นี้ถึงสำคัญ? พระโกศทองใหญ่คืออะไร? และลำดับยศของพระโกศในราชสำนักไทยนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เรามาไขข้อข้องใจและเรียนรู้ประวัติศาสตร์อันล้ำค่านี้ไปด้วยกันครับ
เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่: ความหมายที่ซ่อนอยู่ในการเชิญพระโกศทองใหญ่
ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงราชประเพณีธรรมดาๆ แต่มันคือการ “ถวายพระเกียรติยศพิเศษสูงสุด” อย่างแท้จริงครับ
ทำไมครั้งนี้ถึง “พิเศษ” และ “ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”?
ปกติแล้ว ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ พระบรมศพของสมเด็จพระอัครมเหสี (พระราชินี) จะประดิษฐานใน “พระโกศทองน้อย” ครับ ซึ่งก็ถือเป็นเกียรติยศที่สูงมากแล้ว แต่การที่สมเด็จพระพันปีหลวงทรงได้รับการเชิญพระบรมศพลงสู่ พระโกศทองใหญ่ นั้น มีความหมายว่า พระองค์ทรงได้รับการถวายพระเกียรติยศ “เทียบเท่าพระมหากษัตริย์” เลยทีเดียวครับ
นี่คือการจารึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ ที่แสดงให้เห็นถึงพระเกียรติคุณอันสูงส่งของสมเด็จพระพันปีหลวง ที่ทรงมีคุณูปการต่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทยมาอย่างยาวนานเคียงคู่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9)
พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ: การถวายพระเกียรติยศเทียบเท่าพระมหากษัตริย์
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สำนักพระราชวังจัดการพระบรมศพ โดยถวายพระเกียรติยศสูงสุดตามราชประเพณีครับ โดยองค์ประกอบสำคัญที่ยืนยันถึงพระเกียรติยศนี้ ไม่ได้มีแค่พระโกศทองใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสิ่งเหล่านี้ด้วย:
- การประดิษฐานภายใต้ “นพปฎลมหาเศวตฉัตร” (ฉัตร 9 ชั้น): นี่คือหัวใจสำคัญครับ! เพราะฉัตร 9 ชั้น คือเครื่องสูงอันเป็นสัญลักษณ์เฉพาะขององค์พระมหากษัตริย์ที่ยังทรงครองราชย์ (The Reigning Monarch) เท่านั้น การที่สมเด็จพระพันปีหลวงทรงได้รับการประดิษฐานภายใต้ฉัตร 9 ชั้น จึงเป็นการยืนยันถึงพระเกียรติยศที่เทียบเท่าองค์กษัตริย์อย่างชัดเจน
- การประดิษฐาน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท: สถานที่แห่งนี้คือพระที่นั่งองค์ประธานของพระบรมมหาราชวัง ที่ใช้สำหรับประกอบพระราชพิธีสำคัญๆ โดยเฉพาะพระราชพิธีพระบรมศพของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศ์ชั้นสูง
- เครื่องสูงหักทองขวาง: และเครื่องประกอบพระเกียรติยศอื่นๆ เช่น ชุมสายฉัตร 5 ชั้น, บังแทรกฉัตร 7 ชั้น และต้นไม้ทองเงิน ซึ่งล้วนเป็นไปตามโบราณราชประเพณีสำหรับองค์ประมุข
ดังนั้น เมื่อองค์ประกอบทั้ง 3 อย่างนี้มารวมกัน (พระโกศทองใหญ่ + ฉัตร 9 ชั้น + สถานที่) จึงถือเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ และเป็นพระเกียรติยศสูงสุดที่สมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงได้รับเป็นครั้งแรกครับ
พระโกศทองใหญ่ คืออะไร? เจาะลึกความสำคัญของพระโกศแห่งพระมหากษัตริย์
ทีนี้ เรามาทำความรู้จักกับ “พระเอก” ของงานนี้กันหน่อยครับว่า พระโกศทองใหญ่ ท่านมีความสำคัญอย่างไร
พระโกศทองใหญ่ (Phra Kot Thong Yai) ถือเป็นพระโกศที่มีลำดับยศ “สูงสุด” ในบรรดาพระโกศทั้งปวงของราชสำนักไทยครับ โดยถูกสร้างขึ้นมาสำหรับใช้ทรงพระบรมศพของพระมหากษัตริย์โดยเฉพาะ (และในบางกรณี อาจรวมถึงพระบรมวงศ์ชั้นสูงที่ได้รับพระบรมราชานุญาตเป็นพิเศษ)
ที่มาและประวัติการสร้างพระโกศทองใหญ่
พระโกศทองใหญ่องค์ที่เราเห็นในปัจจุบันนี้ ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) แห่งราชวงศ์จักรีครับ โดยโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อใช้ในงานพระบรมศพของสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก (พระบิดาของรัชกาลที่ 1) และได้กลายเป็นธรรมเนียมสืบต่อมาที่จะใช้พระโกศทองใหญ่นี้สำหรับองค์พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ในราชวงศ์จักรี
องค์ประกอบศิลป์: ความวิจิตรตระการตาของพระโกศสูงสุด
พูดถึงความสวยงาม พระโกศทองใหญ่นี่คือสุดยอดของงานช่างสิบหมู่ครับ องค์พระโกศจะเป็น ทองคำลงยาราชาวดี (การลงยาสีบนทองคำ) ทั้งองค์ มีลักษณะเด่นคือ:
- รูปทรง: เป็นทรงกระบอกแปดเหลี่ยม ยอดทรงมงกุฎ
- ลวดลาย: จะประดับด้วยลายเทพพนม, ลายครุฑยุดนาค, และลายกระหนกเปลวเพลิงที่วิจิตรตระการตาอย่างยิ่ง
- การประดับ: ประดับด้วยอัญมณีล้ำค่าจำนวนมหาศาล
แค่เห็นด้วยตาก็รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่และพระเกียรติยศอันสูงส่งแล้วครับ
“นพปฎลมหาเศวตฉัตร” (ฉัตร 9 ชั้น): เครื่องสูงอันเป็นสัญลักษณ์แห่งองค์กษัตริย์
อย่างที่ผมย้ำไปครับว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่พระโกศ แต่ “ฉัตร” ก็สำคัญไม่แพ้กัน
ความหมายของฉัตร 9 ชั้น
ในราชสำนักไทย “ฉัตร” คือเครื่องแสดงพระอิสริยยศที่ชัดเจนที่สุด ยิ่งจำนวนชั้นมาก ยศก็ยิ่งสูงครับ และ ฉัตร 9 ชั้น หรือ “นพปฎลมหาเศวตฉัตร” นี้ ถือเป็นของใช้เฉพาะสำหรับ องค์พระมหากษัตริย์ที่ยังทรงครองราชสมบัติ เท่านั้น
- ฉัตร 7 ชั้น (สัตตปฎลเศวตฉัตร): โดยปกติจะใช้สำหรับ สมเด็จพระอัครมเหสี, สมเด็จพระบรมราชชนนี, สมเด็จพระยุพราช (องค์รัชทายาท) หรือพระมหากษัตริย์ที่สละราชสมบัติแล้ว
- ฉัตร 5 ชั้น: สำหรับพระบรมวงศ์ชั้นสูงอื่นๆ
ดังนั้น การที่สมเด็จพระพันปีหลวง (ซึ่งตามปกติยศเดิมคือฉัตร 7 ชั้น) ทรงได้รับการประดิษฐานภายใต้ฉัตร 9 ชั้น จึงเป็นการ “ยก” พระเกียรติยศของพระองค์ให้ขึ้นไปเทียบเท่ากับองค์พระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์ครับ
รู้หรือไม่? ลำดับยศพระโกศไทยทั้ง 14 ชนิด (และการใช้พระโกศลองใน)
พอพูดถึงเรื่องโกศ หลายคนก็อยากรู้ต่อใช่ไหมครับว่า พระโกศ มีกี่แบบ? ในราชสำนักไทยมีการจัดลำดับยศของพระโกศ (และโกศ) ไว้ชัดเจนครับ โดยแบ่งได้ถึง 14 ชนิด (หรือบางตำราอาจแบ่งย่อยกว่านั้น) เพื่อใช้สำหรับพระบรมวงศ์และขุนนางที่มีลำดับชั้นแตกต่างกันไป
เรามาดู “ลำดับชั้นพระโกศ” ที่สำคัญๆ กันครับ (เรียงจากยศสูงสุดลงไป)
กลุ่มที่ 1: พระโกศสำหรับพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศ์ชั้นสูง
- พระโกศทองใหญ่: ยศสูงสุด ดังที่กล่าวไปครับ (สำหรับพระมหากษัตริย์)
- พระโกศทองรอง: สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 ยศรองลงมา
- พระโกศทองน้อย: สำหรับสมเด็จพระอัครมเหสี, สมเด็จพระบรมราชชนนี (ซึ่งเป็นธรรมเนียมเดิมก่อนหน้าครั้งนี้), สมเด็จพระยุพราช
- พระโกศกุดั่นใหญ่: เป็นพระโกศสลักลายก้านแย่ง ปิดทอง
- พระโกศมณฑป: สำหรับพระบรมวงศ์ชั้นเจ้าฟ้า
กลุ่มที่ 2: โกศสำหรับพระอนุวงศ์และขุนนาง
ในกลุ่มนี้ก็จะมีลำดับย่อยลงไปอีกครับ เช่น: 6. พระโกศกุดั่นน้อย 7. พระโกศไม้สิบสอง (ทรงแปดเหลี่ยม แต่มีลายไม้ 12 มุม) 8. พระโกศแปดเหลี่ยม 9. โกศโถ (สำหรับขุนนางชั้นสูง) 10. โกศเกราะ (สำหรับขุนนาง) …และอื่นๆ จนถึง โกศไม้สิบสอง (สำหรับพระราชทานเพลิงศพ) และ โกศจีน
เกร็ดความรู้: พระโกศ กับ พระโกศลองใน
มีอีกเรื่องที่คนมักสับสนครับ สิ่งที่เราเห็นสวยงามอลังการอยู่ด้านนอกนั้นเรียกว่า “พระโกศ” (หรือ โกศ) ซึ่งทำหน้าที่เป็น เครื่องประกอบพระเกียรติยศ ที่ครอบอยู่ด้านนอกสุด
ส่วนด้านใน จะมี “พระโกศลองใน” (หรือ พระหีบ) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมศพ/พระศพจริงๆ ครับ โดยพระโกศลองในก็จะมีหลายแบบ เช่น พระโกศทอง ลองในทรงกระบอก, พระโกศเงิน, หรือพระหีบไม้จันทน์หอม ขึ้นอยู่กับพระอิสริยยศเช่นกันครับ
จาก “พระโกศทองน้อย” สู่ “พระโกศทองใหญ่”: การเปลี่ยนแปลงที่สะท้อนพระเกียรติคุณ
การบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ทำให้เราต้องย้อนกลับไปดูธรรมเนียมปฏิบัติเดิมครับ
ธรรมเนียมปฏิบัติในอดีตสำหรับสมเด็จพระอัครมเหสี
ดังที่ผมเกริ่นไปว่า การใช้ พระโกศทองใหญ่ นี้ถือเป็นครั้งแรกสำหรับสมเด็จพระบรมราชินีนาถ หากเราย้อนดูประวัติศาสตร์ เช่น ในงานพระบรมศพของ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (พระมเหสีในรัชกาลที่ 5 และพระราชชนนีของรัชกาลที่ 6 และ 7) หรือ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า (พระอัยยิกาเจ้าในรัชกาลที่ 8 และ 9) ทั้งสองพระองค์ก็ทรงได้รับพระเกียรติยศสูงสุดตามธรรมเนียมในขณะนั้น คือ “พระโกศทองน้อย”
ดังนั้น การที่สมเด็จพระพันปีหลวง (สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ) ทรงได้รับการถวายพระโกศทองใหญ่ จึงเป็นการ “ยกระดับ” พระเกียรติยศขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งสะท้อนถึงพระเกียรติคุณของพระองค์ที่ทรงเป็น “แม่แห่งแผ่นดิน” ผู้ทรงงานหนักเคียงข้างรัชกาลที่ 9 มาตลอด 70 กว่าปี และทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยครับ
บทสรุป: บันทึกประวัติศาสตร์แห่งความจงรักภักดีและพระเกียรติยศสูงสุด
การประดิษฐานพระบรมศพสมเด็จพระพันปีหลวงโดยประกอบพระโกศทองใหญ่ ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่เหตุการณ์ในพระราชพิธีเท่านั้น แต่คือ “สัญลักษณ์” อันลึกซึ้งครับ
มันคือสัญลักษณ์แห่งความจงรักภักดีและพระกตัญญูกตเวทิตาอันสูงสุด ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีต่อสมเด็จพระบรมราชชนนี และยังเป็นการจารึกพระเกียรติคุณของ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทยว่า พระองค์ทรงเป็น “สมเด็จพระบรมราชินีนาถ” ที่ทรงได้รับการถวายพระเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ เทียบเท่าสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า อย่างแท้จริง
บทความที่น่าสนใจ
ลุ้งดินลอยอังคารคือ ??
ลอยอังคารคือ ??
วันห้ามลอยอังคารคือ ??
Tiktok เรือลอยอังคารปากอ่าว
หากท่านกำลังมองหา [ เรือลอยอังคารปากอ่าว]
ที่บริการครบวงจร สามารถเช็ค [ตารางราคาเหมารวม] หรือ [เช่าเฉพาะเรืออย่างเดียว]
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
1. ทำไมครั้งนี้จึงเรียกว่า “ครั้งแรกในประวัติศาสตร์” ในเมื่อพระราชินีองค์ก่อนๆ ก็ได้รับพระเกียรติยศสูง? ตอบ: เพราะในอดีต สมเด็จพระอัครมเหสี หรือ สมเด็จพระบรมราชชนนี จะทรงได้รับพระเกียรติยศสูงสุดตามธรรมเนียมคือ “พระโกศทองน้อย” และฉัตร 7 ชั้น แต่ครั้งนี้ สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงได้รับ “พระโกศทองใหญ่” และฉัตร 9 ชั้น ซึ่งเป็นเครื่องยศสำหรับองค์พระมหากษัตริย์เท่านั้น จึงถือเป็นครั้งแรกครับ
2. ฉัตร 9 ชั้น กับ ฉัตร 7 ชั้น ต่างกันอย่างไร? ตอบ: ฉัตร 9 ชั้น (นพปฎลมหาเศวตฉัตร) เป็นเครื่องยศสูงสุดสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชย์ ส่วน ฉัตร 7 ชั้น (สัตตปฎลเศวตฉัตร) ใช้สำหรับสมเด็จพระอัครมเหสี, สมเด็จพระบรมราชชนนี หรือ สมเด็จพระยุพราช ครับ
3. “พระโกศ” ที่เราเห็นใช่โลงพระศพเลยหรือไม่? ตอบ: ไม่ใช่ครับ พระโกศที่เห็นสวยงามด้านนอก (เช่น พระโกศทองใหญ่) เป็นเครื่องประกอบพระเกียรติยศที่ใช้ “ครอบ” ด้านนอก ส่วนพระบรมศพจะประดิษฐานอยู่ใน “พระโกศลองใน” หรือ “พระหีบ” ที่อยู่ด้านในอีกชั้นหนึ่งครับ
4. นอกจากพระมหากษัตริย์ มีใครเคยได้รับพระโกศทองใหญ่บ้างหรือไม่? ตอบ: โดยธรรมเนียมแล้ว พระโกศทองใหญ่ สงวนไว้สำหรับองค์พระมหากษัตริย์ครับ (ยกเว้นสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ในสมัยรัชกาลที่ 1) การที่สมเด็จพระพันปีหลวงทรงได้รับพระเกียรติยศนี้ จึงถือเป็นกรณีพิเศษและเป็นครั้งประวัติศาสตร์ครับ
5. ปกติแล้ว พระโกศทองใหญ่ เก็บรักษาไว้ที่ไหน? ตอบ: พระโกศทองใหญ่ รวมถึงเครื่องประกอบพระบรมศพชั้นสูงอื่นๆ ถือเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์และของสูงล้ำค่า จะถูกเก็บรักษาไว้ในพระบรมมหาราชวัง เช่น ในพระคลังมหาสมบัติ หรือในหมู่พระที่นั่งต่างๆ เพื่อรอการเชิญออกมาใช้ในพระราชพิธีสำคัญครับ
เนื้อหาอ้างอิง (References)
พระโกศทองใหญ่: พระเกียรติยศสูงสุด “สมเด็จพระพันปีหลวง” ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย






