พระโกศทองใหญ่ ร.1 ร.5 ร.9: ต่างกันอย่างไร?

Summarize Post (สรุปเนื้อหา)
- ไทยมีพระโกศทองใหญ่ 3 องค์: สร้างในสมัย ร.1, ร.5, และ ร.9 โดยแต่ละองค์มีที่มาและภารกิจที่แตกต่างกัน
- องค์ ร.1 (องค์ปฐม): สร้างจากทองคำหลอมรวมจากพระโกศ 4 พระองค์ในอดีต / องค์ ร.5 (พระโกศทองรองทรง): สร้างเพื่อใช้ทดแทนองค์ ร.1 ขณะซ่อมแซม และเป็นองค์ที่ใช้ทรงพระบรมศพในหลวง ร.9 / องค์ ร.9 (องค์ร่วมสมัย): สร้างเพื่ออนุรักษ์องค์เก่าที่ชำรุด และใช้ครั้งแรกในงานพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
- “พระโกศ” ไม่ใช่ “โลง”: พระโกศทองใหญ่เป็นเครื่องประกอบพระเกียรติยศชั้นนอกสุดที่ “ครอบ” พระโกศลองใน (หรือพระหีบ) ที่ประดิษฐานพระบรมศพอีกชั้นหนึ่ง
สวัสดีครับเพื่อนๆ ผู้อ่านทุกท่าน เมื่อพูดถึงพระราชพิธีสำคัญสูงสุดของแผ่นดิน โดยเฉพาะพระราชพิธีพระบรมศพหรือพระศพเจ้านายชั้นสูง ภาพจำที่เรามักจะนึกถึงก็คือความวิจิตรตระการตาของเครื่องประกอบพระเกียรติยศ และหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด เป็นดั่งสัญลักษณ์แห่งพระเกียรติยศนั้น ก็คือ “พระโกศ” ครับ
ในบรรดาพระโกศทั้งหลายที่มีการจัดลำดับยศไว้ในราชสำนัก “พระโกศทองใหญ่” ถือเป็นพระโกศที่มีลำดับยศสูงสุด สงวนไว้สำหรับองค์พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศ์ผู้ทรงศักดิ์สูงสุดเท่านั้น แต่เรื่องราวที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ ตลอดระยะเวลากว่า 200 ปีของกรุงรัตนโกสินทร์ เรามีพระโกศทองใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นในวาระสำคัญถึง 3 องค์ใน 3 รัชกาล
ทำไมต้องสร้างถึง 3 องค์? แต่ละองค์มีที่มาอย่างไร และถูกนำไปใช้ในภารกิจสำคัญใดบ้าง? วันนี้ ผมจะพาทุกท่านย้อนรอยประวัติศาสตร์และตำนานของพระโกศทองใหญ่ทั้งสามองค์นี้กันครับ
พระโกศทองใหญ่ คืออะไร? ทำความเข้าใจ “ที่สุด” แห่งเครื่องประกอบพระเกียรติยศ
ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกแต่ละองค์ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนครับว่า “พระโกศ” คืออะไร และทำไม “พระโกศทองใหญ่” ถึงสำคัญที่สุด
“พระโกศ” กับ “พระบรมศพ” ความหมายที่ต้องเข้าใจ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะยังเข้าใจคลาดเคลื่อนกันอยู่ครับ ต้องอธิบายแบบนี้ครับว่า “พระโกศ” ที่เราเห็นตั้งตระหง่านอย่างวิจิตรตระการตานั้น ไม่ใช่โลงพระศพโดยตรง
ลองนึกภาพตามนะครับ พระโกศเปรียบเสมือน “เครื่องประกอบพระเกียรติยศชั้นนอก” ที่มีความสวยงามสมพระอิสริยยศ ทำหน้าที่ “ครอบ” สิ่งที่อยู่ด้านในอีกชั้นหนึ่งครับ ส่วนพระบรมศพหรือพระศพจริงๆ นั้น จะถูกประดิษฐานอยู่ใน “พระโกศลองใน” (ซึ่งอาจเป็นพระหีบทรงกระบอก หรือพระหีบไม้จันทน์หอม) ที่อยู่ด้านในสุดอีกที
ดังนั้น พระโกศทองใหญ่ จึงเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่ประกาศให้โลกเห็นถึงพระเกียรติยศอันสูงสุดของผู้วายชนม์นั่นเองครับ
ลำดับยศพระโกศ: ทำไม “ทองใหญ่” จึงสูงสุด?
ราชสำนักไทยมีการจัดลำดับยศของพระโกศ (และโกศสำหรับขุนนาง) ไว้ชัดเจนมากครับ มีตั้งแต่โกศโถ, โกศแปดเหลี่ยม, พระโกศกุดั่นน้อย, พระโกศกุดั่นใหญ่, พระโกศทองน้อย, พระโกศทองรอง และสูงสุดคือ พระโกศทองใหญ่
การที่เรียกว่า “ทองใหญ่” ไม่ได้หมายถึงขนาดเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึง “ศักดิ์” ที่ใหญ่ที่สุดด้วย สร้างด้วยวัสดุอันมีค่าสูงสุด (ทองคำ) และประดับด้วยอัญมณีล้ำค่าที่สุด เพื่อใช้สำหรับองค์พระประมุขแห่งแผ่นดิน
องค์ที่ 1: พระโกศทองใหญ่ รัชกาลที่ 1 (องค์ปฐมแห่งราชวงศ์)
นี่คือจุดเริ่มต้นของตำนานครับ พระโกศทองใหญ่องค์แรกนี้ ถือกำเนิดขึ้นในสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1)
ที่มาแห่งทองคำ: การหลอมรวมทองคำจากพระโกศ 4 พระองค์
ข้อมูลจากพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 ระบุว่า พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2351 ความพิเศษสุดๆ ขององค์นี้คือ “มวลสาร” ครับ
ไม่ใช่แค่การใช้ทองคำใหม่ แต่เป็นการ “หลอมรวม” ทองคำที่เคยใช้หุ้มพระโกศของเจ้านายชั้นสูงถึง 4 พระองค์เข้าด้วยกัน ได้แก่:
- พระโกศกุดั่นใหญ่ (ทรงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระเทพสุดาวดี)
- พระโกศกุดั่นน้อย (ทรงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์)
- พระโกศไม้สิบสอง (ทรงพระบรมศพสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท)
- พระโกศ (ทรงพระศพสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงศรีสุนทรเทพ)
ลองนึกภาพดูสิครับว่า พระโกศองค์นี้จึงไม่ได้เป็นเพียงภาชนะที่งดงาม แต่คือการหลอมรวมพระเกียรติยศของเจ้านายองค์สำคัญในยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ไว้ในองค์เดียว
ข้อถกเถียงในประวัติศาสตร์: ใช้ทรงพระบรมศพองค์ใดเป็นครั้งแรก?
จุดนี้น่าสนใจมากครับ! ข้อมูลที่เราทราบกันทั่วไปมักจะบอกว่า เมื่อสร้างเสร็จก็นำไปใช้ทรงพระศพสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงศรีสุนทรเทพ (องค์ที่ 4 ที่กล่าวถึงตะกี้) เป็นครั้งแรก
แต่ในตำนาน (หรืออาจเรียกว่าบันทึกเชิงเกร็ดประวัติศาสตร์) กลับเล่าว่า เมื่อสร้างพระโกศทองใหญ่องค์นี้เสร็จ รัชกาลที่ 1 โปรดฯ มาก ถึงขนาดให้ตั้งถวายไว้ในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ให้พระองค์ได้ทอดพระเนตรชื่นชมอยู่หลายวัน… และเมื่อพระองค์เสด็จสวรรคต ก็ได้ใช้ ทรงพระบรมศพของพระองค์เองเป็นครั้งแรก
เรื่องนี้จึงยังเป็นข้อถกเถียงที่น่าสนใจในหมู่ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์ครับ แต่ไม่ว่าจะใช้งานครั้งแรกกับพระองค์ใด พระโกศองค์นี้ก็ได้กลายเป็น “ต้นแบบ” และถูกใช้สืบทอดในพระราชพิธีพระบรมศพพระมหากษัตริย์และพระศพเจ้านายชั้นสูงนับแต่นั้นมา
ลักษณะทางศิลปะ: แปดเหลี่ยม ยอดทรงมงกุฎ
เอกลักษณ์ของพระโกศทองใหญ่องค์นี้ คือการเป็น พระโกศแปดเหลี่ยม ยอดทรงมงกุฎ และประดับด้วยพลอยอันล้ำค่า ซึ่งกลายเป็นรูปแบบหลักที่พระโกศทองใหญ่องค์ต่อๆ มายึดถือเป็นแนวทาง
องค์ที่ 2: พระโกศทองใหญ่ รัชกาลที่ 5 (หรือ “พระโกศทองรองทรง”)
เวลาล่วงเลยมาเกือบร้อยปี จนถึงสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ก็ได้มีการสร้างพระโกศทองใหญ่องค์ที่ 2 ขึ้นครับ
เหตุผลในการสร้าง: ทำไมต้องสร้าง “องค์สำรอง”?
เมื่อ พ.ศ. 2443 รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้ พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นปราบปรปักษ์ สร้างพระโกศองค์นี้ขึ้น เหตุผลนั้นเป็นเรื่องของ “การปฏิบัติงาน” ล้วนๆ ครับ
พูดง่ายๆ ก็คือ พระโกศทองใหญ่องค์เดิม (ของ ร.1) นั้น ผ่านการใช้งานมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เมื่อถึงคราวต้องออกพระเมรุ (งานพระราชทานเพลิง) พระโกศองค์เดิมจำเป็นต้องถูกเชิญออกไป “ขัดแต่ง” หรือซ่อมแซมให้งดงามสมพระเกียรติยศเสียก่อน
ปัญหาก็คือ แล้วในช่วงเวลาที่องค์จริงถูกนำไปซ่อมแซมนั้น จะใช้อะไรมาประดิษฐานแทนล่ะ?
นี่จึงเป็นที่มาของการสร้างพระโกศองค์ที่ 2 นี้ขึ้นครับ เพื่อใช้ “ประกอบพระลอง” (ใช้งานแทนชั่วคราว) ในขณะที่องค์จริง (ร.1) ถูกนำไปบูรณะ ทำให้คนทั่วไปมักเรียกพระโกศองค์นี้ติดปากว่า “พระโกศทองรองทรง”
ข้อวิจารณ์ของสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศฯ: ทำไมควรเรียก “ทองใหญ่”?
แม้จะถูกเรียกว่า “รองทรง” แต่ “สมเด็จครู” หรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ (ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะและการช่างสูงสุดองค์หนึ่งของไทย) ได้เคยทรงพระวิจารณ์ไว้ครับว่า…
ไม่ควรเรียกท่านว่า “รองทรง” เลย!
เพราะวัตถุประสงค์หลักในการสร้างนั้น แม้จะเป็นการสร้างเพิ่ม แต่ก็สร้างด้วยฝีมือและความวิจิตรบรรจงไม่แพ้กัน และมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ทรงพระบรมศพหรือพระศพเจ้านายที่มีศักดิ์สูง “พร้อมกัน” (ในกรณีที่มีพระราชพิธีซ้อนกัน) ดังนั้น พระโกศองค์นี้จึงมี “ศักดิ์” เสมอด้วยพระโกศทองใหญ่ รัชกาลที่ 1 ทุกประการครับ
ภารกิจสำคัญ: จากสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี สู่ ในหลวง ร.9
พระโกศทองใหญ่ รัชกาลที่ 5 นี้ กลับกลายเป็นองค์ที่พวกเราในยุคปัจจุบันคุ้นตามากที่สุดครับ เพราะถูกใช้ในพระราชพิธีสำคัญแห่งยุคสมัยหลายครั้ง เช่น:
- ทรงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7
- ทรงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
- และครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ร่วมสมัย คือใช้ทรงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวง ร.9) โดยประดิษฐานเหนือพระแท่นสุวรรณเบญจดล ภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
องค์ที่ 3: พระโกศทองใหญ่ รัชกาลที่ 9 (ราชศิลป์ร่วมสมัย)
และแล้วก็มาถึงองค์ที่ 3 ครับ ซึ่งถือกำเนิดในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวง ร.9)
ความจำเป็นในยุคปัจจุบัน: เมื่อองค์เดิมชำรุดตามกาลเวลา
ในหลวง ร.9 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระโกศทองใหญ่องค์ที่ 3 นี้ขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2543 (ประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว) เหตุผลง่ายๆ แต่สำคัญยิ่งครับ นั่นคือ “การอนุรักษ์มรดกชาติ”
พระโกศทองใหญ่องค์ที่ 1 (ร.1) และองค์ที่ 2 (ร.5) นั้น ต่างก็ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหลายคราว (โดยเฉพาะองค์ ร.1 ที่มีอายุกว่า 200 ปี) ทำให้เกิดการชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา การสร้างองค์ใหม่ขึ้นมาจึงเป็นการ “ถนอม” องค์เดิมทั้งสองไว้ให้เป็นมรดกของชาติ และมีพระโกศองค์ใหม่ที่แข็งแรงไว้ใช้งานในพระราชพิธีสำคัญต่อไป
การผสมผสานเชิงช่าง: การรวมศิลปะ ร.1 และ ร.5
พระโกศทองใหญ่องค์ที่ 3 นี้ ถือเป็นสุดยอดราชศิลป์ร่วมสมัยครับ โดยมีลักษณะเป็นพระโกศแปดเหลี่ยม ยอดทรงมงกุฎ ทำจากไม้หุ้มทองคำ ประดับพลอยขาว
ความพิเศษคือทรวดทรงและลวดลายนั้น ไม่ได้ลอกแบบองค์ใดองค์หนึ่งมาตรงๆ แต่เป็นการ “ผสมผสาน” เอกลักษณ์ทางศิลปะที่งดงามที่สุดของพระโกศทองใหญ่ รัชกาลที่ 1 และ รัชกาลที่ 5 เข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืนครับ
การใช้งานครั้งแรก: ในพระราชพิธีพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
พระโกศทองใหญ่องค์ใหม่ล่าสุด (ร.9) นี้ ได้ถูกเชิญออกใช้งานในพระราชพิธีเป็นครั้งแรก ในการทรงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อ พ.ศ. 2551
ที่น่าสนใจคือ ในพระราชพิธีครั้งนั้น (พ.ศ. 2551) พระโกศทองใหญ่องค์ที่ 1 (ร.1) ซึ่งเป็นองค์ดั้งเดิม ก็ได้ถูกเชิญออกไปใช้ในการ “ออกพระเมรุ” เช่นกันครับ
เปรียบเทียบ 3 องค์ 3 รัชกาล: ความเหมือนที่แตกต่าง
เมื่อเรามองย้อนกลับไป เราจะเห็นภาพที่ชัดเจนครับ:
- พระโกศทองใหญ่ ร.1: องค์ปฐม, องค์ต้นแบบ, สร้างจากทองคำหลอมรวมในอดีต, เต็มไปด้วยตำนานการใช้งานครั้งแรก
- พระโกศทองใหญ่ ร.5: องค์รองทรง (แต่ศักดิ์เท่ากัน), สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอย (ทดแทนองค์เดิมขณะซ่อม), ทำจากไม้หุ้มทองคำ, เป็นองค์ที่ถูกใช้งานมากที่สุดในยุคปัจจุบัน (รวมถึงงานในหลวง ร.9)
- พระโกศทองใหญ่ ร.9: องค์อนุรักษ์, สร้างขึ้นเพื่อถนอมองค์เก่าที่ชำรุด, เป็นราชศิลป์ร่วมสมัยที่ผสมผสานความงามของสององค์แรก, ทำจากไม้หุ้มทองคำ
บทสรุป: พระโกศทองใหญ่ มรดกแห่งพระเกียรติยศที่สืบทอดในแผ่นดิน
เรื่องราวของพระโกศทองใหญ่ทั้ง 3 รัชกาล ไม่ใช่แค่ประวัติศาสตร์ของวัตถุโบราณครับ แต่มันคือบันทึกที่มีชีวิตของราชวงศ์จักรี คือหลักฐานเชิงประจักษ์ของพระเกียรติยศสูงสุดที่กาลเวลาไม่สามารถทำลายได้
จากองค์ปฐมที่หลอมรวมจากอดีต สู่องค์ที่สองที่สร้างเพื่อใช้งานจริง และองค์ที่สามที่สร้างขึ้นเพื่ออนุรักษ์อนาคต… ทั้งสามองค์ต่างทำหน้าที่ “ทรง” พระเกียรติคุณของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศ์ชั้นสูงของไทย ส่งต่อมรดกทางวัฒนธรรมและราชศิลป์อันล้ำค่านี้จากรัชกาลสู่รัชกาล ให้เราคนไทยได้ภาคภูมิใจสืบไปครับ
บทความที่น่าสนใจ
ลุ้งดินลอยอังคารคือ ??
ลอยอังคารคือ ??
วันห้ามลอยอังคารคือ ??
Tiktok เรือลอยอังคารปากอ่าว
หากท่านกำลังมองหา [ เรือลอยอังคารปากอ่าว]
ที่บริการครบวงจร สามารถเช็ค [ตารางราคาเหมารวม] หรือ [เช่าเฉพาะเรืออย่างเดียว]
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
1. ทำไมรัชกาลที่ 5 ต้องสร้างพระโกศทองใหญ่องค์ที่ 2 เพิ่ม? ตอบ: เนื่องจากพระโกศทองใหญ่องค์ที่ 1 (ของ ร.1) จำเป็นต้องถูกเชิญไปบูรณะซ่อมแซม (ขัดแต่ง) ก่อนงานออกพระเมรุ ทำให้ต้องมีพระโกศอีกองค์หนึ่งไว้ใช้งาน “แทนชั่วคราว” ในระหว่างนั้น จึงเรียกกันว่า “พระโกศทองรองทรง” แต่ก็มีศักดิ์เสมอด้วยพระโกศทองใหญ่ครับ
2. พระโกศทองใหญ่ทั้ง 3 องค์ ทำจากวัสดุเหมือนกันหรือไม่? ตอบ: ไม่เหมือนกันครับ พระโกศทองใหญ่องค์ที่ 1 (ร.1) สร้างจาก “ทองคำหลอมรวม” จากพระโกศองค์อื่นๆ ในอดีตผสมทองคำใหม่ ส่วนพระโกศทองใหญ่องค์ที่ 2 (ร.5) และองค์ที่ 3 (ร.9) สร้างจาก “ไม้หุ้มทองคำ” ประดับพลอยครับ
3. ในพระราชพิธีพระบรมศพในหลวง ร.9 ใช้พระโกศทองใหญ่องค์ใด? ตอบ: ใช้ พระโกศทองใหญ่ รัชกาลที่ 5 (หรือ พระโกศทองรองทรง) ครับ
4. พระโกศทองใหญ่ รัชกาลที่ 9 สร้างเสร็จแล้ว ใช้งานครั้งแรกเมื่อใด? ตอบ: ใช้งานเป็นครั้งแรกในพระราชพิธีพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อ พ.ศ. 2551 ครับ
5. “พระโกศทองใหญ่” กับ “พระโกศทองรองทรง” องค์เดียวกันหรือไม่? ตอบ: เป็นองค์เดียวกันครับ “พระโกศทองรองทรง” คือชื่อที่คนทั่วไปเรียก พระโกศทองใหญ่ รัชกาลที่ 5 เนื่องจากเหตุผลในการสร้างคือเพื่อใช้ “รองทรง” หรือใช้แทนองค์จริง (ร.1) ชั่วคราว แต่สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศฯ ทรงวิจารณ์ว่าควรเรียก “ทองใหญ่” เพราะมีศักดิ์เสมอกันครับ
เนื้อหาอ้างอิง (References)
- นิตยสารศิลปวัฒนธรรม: “พระโกศทองใหญ่ 3 รัชกาล”
- กรมศิลปากร (The Fine Arts Department):
- สำนักพระราชวัง (Royal Office):






